โปรโมชั่น!! ผ่อนชำระสินค้าเริ่มต้นที่ 0%

ตู้เสื้อผ้าบานเลื่อน vs บานเปิด เลือกแบบไหนให้เหมาะกับห้องคุณ

  • หน้าหลัก
  • Blog
  • ตู้เสื้อผ้าบานเลื่อน vs บานเปิด เลือกแบบไหนให้เหมาะกับห้องคุณ
ตู้เสื้อผ้าบานเลื่อน vs บานเปิด เลือกแบบไหนให้เหมาะกับห้องคุณ

การเลือก ตู้เสื้อผ้าบานเลื่อน หรือ ตู้เสื้อผ้าบานเปิด เป็นอีกหนึ่งโจทย์สำคัญสำหรับการจัดห้องนอน เพราะตู้เสื้อผ้าไม่ใช่แค่พื้นที่จัดเก็บ แต่ยังเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่มีผลต่อการใช้งาน และความสวยงามของห้อง

 

เปรียบเทียบคุณสมบัติพื้นฐาน

ตู้เสื้อผ้าบานเลื่อน

1.    การใช้งานพื้นที่

     ไม่ต้องการพื้นที่ในการเปิด-ปิด ทำให้สามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ชิ้นอื่นบริเวณใกล้ตู้ได้

     เหมาะกับห้องที่มีทางเดินแคบ เพราะไม่ต้องกังวลเรื่องการเปิดประตูกระแทกผนัง

     สามารถติดตั้งในพื้นที่จำกัดได้ เช่น ใต้คานหรือในมุมห้อง

     ประหยัดพื้นที่ใช้สอยด้านหน้าได้มากถึง 30-40% เมื่อเทียบกับแบบบานเปิด

2.    การจัดเก็บ

     มีระบบรางที่รองรับน้ำหนักได้มาก เหมาะกับการเก็บของหนัก

     มีอุปกรณ์เสริมให้เลือกมากมาย เช่น ตะกร้า ราวแขวน ชั้นวางรองเท้า

     ระบบรางเลื่อนนุ่มนวล ไม่ส่งเสียงรบกวน

     มีระบบ Soft Close ช่วยในการปิดแบบนุ่มนวล

 

ตู้เสื้อผ้าบานเปิด

1.    การใช้งานพื้นที่

     ต้องเผื่อพื้นที่สำหรับเปิดประตูตู้ประมาณ 60-90 ซม.

     เหมาะกับห้องที่มีพื้นที่กว้าง สามารถเปิดประตูตู้ได้สุด

     สามารถติดกระจกด้านในบานประตูเพื่อใช้ส่องได้

     มีความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนบานพับ หรือซ่อมแซม

2.    การจัดเก็บ

     จัดระเบียบเสื้อผ้าได้ง่าย เพราะเห็นพื้นที่ภายในทั้งหมด

     สามารถแบ่งโซนการจัดเก็บได้ชัดเจน

     ติดตั้งอุปกรณ์เสริมได้ง่าย เช่น ตะขอแขวน ไฟ LED

     เหมาะกับการเก็บเสื้อผ้าที่ต้องการการถ่ายเทอากาศดี

 

ข้อดีและข้อจำกัดของตู้เสื้อผ้าแต่ละแบบ

ตู้เสื้อผ้าบานเลื่อน

ข้อดีเพิ่มเติม:

     มีระบบกันฝุ่นที่ดีกว่า เพราะบานเลื่อนชิดสนิท

     สามารถเลือกวัสดุหน้าบานได้หลากหลาย เช่น กระจก อลูมิเนียม

     มีระบบล็อคที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก

     สามารถทำเป็นบานกระจกเงาได้ทั้งบาน ช่วยให้ห้องดูกว้างขึ้น

     ดีไซน์ทันสมัย เข้ากับห้องสไตล์โมเดิร์น

ข้อจำกัดเพิ่มเติม:

     ต้องทำความสะอาดรางบานเลื่อนอย่างสม่ำเสมอ

     หากรางบานเลื่อนมีปัญหา อาจต้องเปลี่ยนทั้งระบบ

     น้ำหนักประตูอาจทำให้รางบานเลื่อนเสื่อมเร็วขึ้น

     ราคาอะไหล่ค่อนข้างสูง

     ต้องระวังเรื่องการกระแทก เพราะอาจทำให้รางบานเลื่อนเสียหาย

 

ตู้เสื้อผ้าบานเปิด

ข้อดีเพิ่มเติม:

     หาช่างซ่อมได้ง่าย เพราะเป็นระบบบานพับทั่วไป

     สามารถปรับระดับบานประตูได้ง่าย

     ระบายอากาศได้ดีกว่า ลดปัญหาความชื้น

     เปลี่ยนบานประตูใหม่ได้ง่ายเมื่อต้องการ

     มีตัวเลือกบานพับคุณภาพสูงที่รับประกันการใช้งานนาน

ข้อจำกัดเพิ่มเติม:

     เสียงรบกวนจากบานพับอาจมีมากกว่า

     ต้องคอยปรับบานพับเป็นระยะ

     อาจมีช่องว่างที่ทำให้ฝุ่นเข้าได้

     บานประตูอาจหลุดหากใช้แรงมากเกินไป

     ต้องระวังเรื่องความชื้นที่อาจทำให้บานประตูบวม

 

การดูแลรักษา

ตู้เสื้อผ้าบานเลื่อน

การทำความสะอาด: จำเป็นที่จะต้องเช็ดทำความสะอาด ดูดฝุ่นรางบานเลื่อนอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงทำความสะอาดล้อเลื่อน เพื่อให้บานเลื่อนสามารถทำงานได้อย่างไม่ติดขัด

การบำรุงรักษา: นอกจากการทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ เราก็ยังจำเป็นต้องทำการบำรุงรักษา เพื่อให้บานเลื่อนมีอายุการใช้งานยาวนาน ไม่เสื่อมสภาพ โดยควรหมั่นตรวจสอบความลื่นไหลของการเลื่อน หยอดน้ำมันรางบานเลื่อน ปรับระดับประตู และเช็คระบบล็อค

 

ตู้เสื้อผ้าบานเปิด

การทำความสะอาด: หมั่นเช็ดบานประตู และทำความสะอาดบานพับอยู่เสมอ รวมถึงตรวจสอบ ดูแลอุปกรณ์ล็อคเป็นประจำ

การบำรุงรักษา: ควรตรวจสอบความสมบูรณ์ของตู้เสื้อผ้าอยู่เสมอ ทำการขันน็อตบานพับให้แน่น ปรับระดับประตู และควรเปลี่ยนบานพับทันทีเมื่อเสื่อมสภาพ

 

การเลือกระหว่าง ตู้เสื้อผ้าบานเลื่อน และ ตู้เสื้อผ้าบานเปิด ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ทั้งขนาดห้อง งบประมาณ และการใช้งาน สำหรับห้องขนาดเล็ก ตู้เสื้อผ้าบานเลื่อน อาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า ในขณะที่ ตู้เสื้อผ้าบานเปิด อาจเหมาะกับห้องขนาดใหญ่และผู้ที่ต้องการความสะดวกในการจัดเก็บ

ดังนั้นจึงควรเลือกรูปแบบตู้เสื้อผ้าให้เหมาะสมกับการใช้งาน เพื่อการใช้งานที่ตอบโจทย์ ราบรื่น ไม่ติดขัด พบกับตู้เสื้อผ้าทั้งแบบบานเลื่อน และบานเปิด ให้คุณได้เลือกใช้งานตามสไตล์ที่ชื่นชอบได้ที่ ตู้เสื้อผ้า - หนึ่งดีเลิศ